จดหมายถึงญาติมิตรพัฒนาสังคม (ฉบับที่ 1 วันที่ 20 พ.ย. 2549)
นึกถึงญาติมิตรพัฒนาสังคม
เวลา 6 สัปดาห์ผ่านไปเหมือนมีปีกบิน !
ผมเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2549 โดยไม่คาดคิด คาดฝัน หรือประสงค์อยากมาเป็น แต่ด้วยสถานการณ์พิเศษและด้วยเงื่อนไขที่มีเหตุผล จึงรับมาทำหน้าที่นี้
การรับทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการะทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ทำให้ผมนึกถึง “ญาติมิตรพัฒนาสังคม” คือ ผู้คนทั้งหลายที่มีบทบาทและมีความเกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาและพัฒนา พัฒนาสังคมสังคมพร้อมกับการเสริมสร้างความมั่นคงของมนุษย์หรือความมั่นคงทางชีวิต อันถือเป็นภารกิจของกระทรวงนี้
“ญาติมิตรพัฒนาสังคม” ในความคิดของผมประกอบด้วยข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงหรือในสังกัดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ นั่นคือข้าราชการและเจ้าหน้าที่ที่สังกัดสำนักงานรัฐมนตรี (สร.) สำนักงานปลัดกระทรวง (สป.) กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) สำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) สำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส คนพิการ และผู้สูงอายุ (สท.) การเคหะแห่งชาติ (กคช.) และสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.)
แต่พร้อมกันนั้น ผมยังถือว่า “ญาติมิตรพัฒนาสังคม” ย่อมรวมถึงบุคคล กลุ่มคน องค์กร หน่วยงาน เครือข่าย อีกมากมาย ที่มีบทบาทหรือมีความเกี่ยวข้องกับการพัฒนาสังคมทั้งทางตรงและทางอ้อม
นั่นคือ รวมถึง ชุมชนท้องถิ่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ราชการส่วนภูมิภาค ภาคประชาสังคมในระดับต่างๆ ภาคธุรกิจในระดับต่างๆ ภาครัฐและส่วนกลาง ฝ่ายการเมือง ฝายนิติบัญญัติ ฝ่ายตุลาการ และประชาชนทั่วไป
ดังนั้น ถ้าจะถือว่า “ญาติมิตรพัฒนาสังคม” นั้น รวมถึงทุกคนทุกฝ่ายทุกภาคส่วน ทุกระดับ ทุกพื้นที่ ในสังคมไทยก็น่าจะได้
ความ “นึกถึง” ของผม หมายความว่า “อยากสื่อสารด้วย” ผมจึงเขียนจดหมายฉบับนี้ เริ่มฉบับที่ 1 และจะเขียนต่อๆ ไปเป็นระยะๆ ลงใน Weblog : paiboon.gotoknow.org และจะเปิดดูได้จาก www.m-society.go.thอีกด้วย
หาก “ญาติมิตร” ผู้ใดประสงค์จะสื่อสารกับผม ก็ทำได้ผ่าน Weblog ดังกล่าว หรือผ่านช่องทางอื่นๆ ที่สะดวก ผมจะพยายามรับรู้การสื่อสารของ “ญาติมิตร” ให้ได้ในระดับที่เหมาะควรและเป็นไปได้ แต่คงไม่สามารถสื่อสารตอบกลับเป็นรายบุคคลได้ ที่พอทำได้คือการสื่อสารตอบกลับโดยรวมๆ เป็นระยะๆ
รัฐมนตรีควรเน้นการคิดค้นและขับเคลื่อนนโยบายยุทธศาสตร์เป็นสำคัญ
ทันทีที่เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรี ก็ได้มีผู้อาวุโสและผู้ทรงคุณวุฒิ ให้คำแนะนำว่า รัฐมนตรีต้องทำงานเชิงนโยบายและยุทธศาสตร์เป็นหลัก ไม่ควรใช้เวลาไปกับการทำพิธีต่างๆ การรับแขกส่งแขก และแม้แต่การแก้ปัญหาปลีกย่อยทั้งหลายให้มากเกินไป หรือควรทำให้เรื่องเหล่านั้นให้น้อยที่สุดนั่นเอง เพื่อจะได้มีเวลามากพอสำหรับทำเรื่องสำคัญ ซึ่งมีประโยชน์และมีคุณค่าอย่างมากและอย่างแท้จริงต่อประชาชนและต่อประเทศชาติโดยรวม (คำแนะนำนี้ตรงกันกับความคิดของผมเองโดยผมได้เคยให้ความเห็นทำนองเดียวกันหลายครั้งในช่วงเวลาที่ผมเป็นนักพัฒนาสังคมอิสระ)
เรื่องสำคัญ ที่กล่าวถึงนั้น สำหรับกระทรวงที่ผมรับผิดชอบ คือการคิดค้นและขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์เพื่อการพัฒนาสังคมและเสริมสร้างความมั่นคงของมนุษย์ นั่นเอง
ดังนั้น นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีผมจึงได้ใช้ความพยายามร่วมกับทีมงานและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตลอดจนผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกกระทรวงฯ อีกจำนวนมาก ในการคิดค้นและขับเคลื่อนนโยบายยุทธศาสตร์
ซึ่งได้สรุปเป็น “ภารกิจสำคัญ” ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ จะมุ่งดำเนินการ ดังนี้
1. “ภารกิจเร่งด่วน” มี 4 ด้าน
1.1 การร่วมบรรเทาความเดือดร้อนและฟื้นฟูพัฒนาอันสืบเนื่องจากอุทกภัยครั้งใหญ่
1.2 การร่วมคลี่คลายปัญหาความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้
1.3 การร่วมแก้ปัญหาความแตกแยกพร้อมกับการเสริมสร้างความสมานฉันท์ในสังคมไทย
1.4 การร่วมแก้ปัญหาความทุจริตพร้อมกับการเสริมสร้างธรรมาภิบาลในการบริหารงานภาครัฐ
2. “ภารกิจหลัก” ประกอบด้วย “3 ยุทธศาสตร์สังคมแห่งชาติ” ดังนี้
2.1 ยุทธศาสตร์สังคมไม่ทอดทิ้งกัน (ช่วยเหลือเกื้อกูลและดูแลกัน)
2.2 ยุทธศาสตร์สังคมเข้มแข็ง (ชุมชนท้องถิ่นและประชาสังคมเข้มแข็ง)
2.3 ยุทธศาสตร์สังคมคุณธรรม (มีความถูกต้องเป็นธรรมและดีงาม)
3. “ภารกิจสนับสนุน” ได้แก่
3.1 การพัฒนาองค์กรและระบบสนับสนุนที่อยู่ในสังกัดกระทรวงและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ
3.2 การร่วมพัฒนาองค์กรและระบบสนับสนุนที่อยู่นอกสังกัดกระทรวงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ
แผนภารกิจและมาตรการสำคัญ (Roadmap) ของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ
ภารกิจทั้งหมดดังกล่าวข้างต้นจะปรากฏอยู่ใน“แผนภารกิจและมาตรการสำคัญ” (Roadmap)ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยจะมีรายละเอียดของภารกิจแต่ละหมวดในรูปของมาตรการสำคัญต่างๆ ที่ระบุลักษณะของ มาตรการ เป้าหมาย กำหนดเวลา และผู้รับผิดชอบหลัก
“แผนภารกิจและมาตรการสำคัญ ” (Roadmap) นี้จะเปิดเผยต่อผู้เกี่ยวข้องและต่อสาธารณะ เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องและสาธารณะได้รับทราบและมีโอกาสได้ร่วมคิดร่วมดำเนินการด้วยในลักษณะ “พหุปฏิสัมพันธ์”
ดังนั้น เมื่อเวลาผ่านไป “แผนภารกิจและมาตรการสำคัญ” (Roadmap) ของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ “แผนปฏิรูปสังคม” ที่ระบุในคำแถลงนโยบายของรัฐบาลเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2549 จะมีการปรับปรุงเปลี่ยน แปลงเป็นระยะๆ โดยเฉพาะในรายละเอียดตามเหตุตามผลอันเนื่องจากสถานการณ์ที่เคลื่อนตัวไปพร้อมๆกับ “พหุปฏิสัมพันธ์” ของผู้เกี่ยวข้องหลายฝ่าย
สอดคล้องกับหลักคิดของผมที่ว่า “จะปฏิรูปสังคมต้องให้สังคมร่วมปฏิรูป จะพัฒนาสังคมต้องให้สังคมร่วมพัฒนา”
สวัสดีครับ
ไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม
อ้างอิง
บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย นาย ไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม ใน ไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม
เว็บไซต์ ต้นฉบับ https://www.gotoknow.org/posts/61310