จดหมายถึงญาติมิตรพัฒนาสังคม ฉบับที่ 25 (14 ส.ค. 50)
กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรสมารถดึงตัวเองออกจากหล่มและเริ่มก้าวเดินไปข้างหน้าได้แล้ว
วันที่ 10-11 สิงหาคม 2550 ผมไปเป็นประธานการสัมมนากรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (กฟก.) โดยเชิญอดีตกรรมการชุดที่เพิ่งผ่านพ้นไปมาร่วมสัมมนาด้วย รวมผู้เข้าสัมมนาทั้งหมด ประมาณ 50 คน กับมีเจ้าหน้าที่ของ กฟก. ประมาณ 40 คน มาอำนวยความสะดวกและร่วมสังเกตการณ์
การจัดสัมมนาจัดที่โรงแรมบางกอกกอล์ฟสปารีสอร์ท จ.ปทุมธานี
นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ตั้ง กฟก. มา (เมื่อ พ.ศ. 2542) ที่มีการสัมมนากรรมการกองทุนฯ
การสัมมนาเริ่มตอนบ่ายของวันที่ 10 ส.ค. เสร็จสิ้น เมื่อประมาณ 12.00 น. ของวันที่ 11 ส.ค. แล้วต่อด้วยการประชุมคณะกรรมการ กฟก. ในช่วงหลังอาหารกลางวัน ไปเลิกประชุมเอาประมาณ 18.00 น. (การประชุมดำเนินต่อไปหลังจากผม และ รมว. ธีระ สูตะบุตร จำต้องขอลาไปเมื่อประมาณ 15.00 น. เพื่อร่วมคณะเข้าเฝ้าถวายพระพรสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ โดยผมได้ขอให้คุณทวี วิริยฑูรย์ เป็นประธานการประชุมแทน)
การประชุมคณะกรรมการ กฟก. ครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 2/2550 หลังจากที่สามารถประชุมครั้งที่ 1/2550 ได้เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 50
ก่อนหน้านั้น กฟก. ไม่สามารถจัดการประชุมคณะกรรมการได้เป็นเวลาประมาณ 11 เดือน หลังจากที่มีการประชุมครั้งที่ 2/2549 เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2549
ผลการประชุมครั้งที่ 2/2550 เมื่อ 11 ส.ค. 50 ที่สำคัญคือ สามารถแต่งตั้ง (1) “คณะกรรมการบริหารกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร” (7 คน) (2) “คณะกรรมการจัดการหนี้ของเกษตร” (21 คน) และ (3) “คณะอนุกรรมการพัฒนาระบบ นโยบาย และขบวนการเกษตร” (21 คน) ได้เรียบร้อย
สองคณะแรกเป็นคณะกรรมการที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติ กฟก. ส่วนคณะที่ (3) เป็นการริเริ่มขึ้นใหม่ อันเป็นผลส่วนหนึ่งจากการสัมมนากรรมการ กฟก. ที่เพิ่งเสร็จสิ้นไป
การที่สามารถจัดตั้งคณะกรรมการ กฟก. ชุดใหม่ สามารถจัดประชุมคณะกรรมการฯได้ 2 ครั้ง และสามารถแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารฯ คณะกรรมการจัดการหนี้ฯ แถมด้วยคณะอนุกรรมการชุดสำคัญที่น่าช่วยในการ “ปฏิรูป” หรือ “อภิวัฒน์” กฟก. ได้นั้น น่าจะถือได้ว่า กฟก. สามารถดึงตัวเองออกจากหล่มและเริ่มก้าวเดินไปข้างหน้าได้แล้ว
และในวันที่ 20 ส.ค. นี้ เราก็ได้นัดประชุมคณะกรรมการ กฟก. ครั้งที่ 3/2550 โดยจะใช่เวลาทั้งวัน กล่าวคือ ในภาคเช้าจะเป็นการแยกประชุมคณะกรรมการบริหารฯ คณะกรรมการจัดการหนี้ฯ และคณะอนุกรรมการพัฒนาระบบฯ ส่วนภาคบ่ายจะเป็นการประชุมคณะกรรมการ กฟก. (41 คน) ซึ่งคาดว่าจะมีเรื่องสำคัญๆให้ตัดสินใจได้จำนวนหนึ่ง
น่าจะเป็นประวัติการณ์ของ กฟก. ที่จะได้มีการประชุมคณะกรรมการ กฟก. ถึง 3 ครั้ง ในเดือนเดียวกัน !
ถ้าจะอธิบายก็อาจกล่าวได้ว่าเป็นการ “ชดเชย” ที่ในช่วงปี 2549-50 ไม่ได้มีการประชุมคณะกรรมการ กฟก. นานถึง 11 เดือน ระหว่าง ก.ย. 49 ถึง ส.ค. 50
สวัสดีครับ
ไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม
อ้างอิง
บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย นาย ไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม ใน ไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม
เว็บไซต์ ต้นฉบับ https://www.gotoknow.org/posts/119531